ยืดผมเคราติน คือ หนึ่งในวิธีที่จะสามารถช่วยตรึงเส้นผมให้มีความตรงเรียบ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความเงางามให้ผมแลดูสวยยิ่งขึ้น ผมแลดูสุขภาพดี เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่มีผมชี้ ผมแห้ง ผมเสีย และกำลังเป็นหนึ่งในการบำรุงผมที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ สำหรับคนที่กำลังอยากที่จะลองการยืดผมเคราตินแต่ยังสงสัยอยู่ว่า การยืดผมเครตินนั้นแตกต่างไปจากการยืดผมแบบถาวร หรือการยืดผมปกติอย่างไร และการยืดผมเคราตินนั้นมีข้อดี มีข้อเสียอย่างไรบ้าง สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจได้จากข้อมูลจากทางเว็บไซต์ของเรา
โครงสร้างของเส้นผม
เพื่อการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ยืดผมเคราติน การรู้ถึงโครงสร้างของเส้นผม จะมีส่วนช่วยในการประกอบการตัดสินใจ เส้นผม คือ การงอกทับถมของเซลล์ที่ตายไปแล้ว โดยประกอบไปด้วยกรดอะมิโน (Amino Acid) และแร่ธาตุ C, H, N, P, S ที่ซึงจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน กล่าวคือ เส้นผมที่งอกออกมาที่บริเวณหนังศีรษะ และรากผมที่อยู่ภายใต้บริเวณของหนังศีรษะ โดยเส้นผมนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน
- เกร็ดผม (Cuticle) คือ ส่วนที่อยู่ชั้นนอกสุดของเส้นผม ที่เกิดขึ้นจากการที่เซลล์เคราตินเรียงตัวกันเป็นชั้นๆ โดยจะทำหน้าที่ปกป้องเนื้อผมจากสิ่งภายนอก ซึ่งผมจะแลดูสวยหรือไม่ขึ้นอยู่กับเกร็ดผมส่วนนี้
- เนื้อผม (Cortex) คือ สิ่งที่จะอยู่ใต้เกร็ดผม โดยเนื้อผมนั้นเป็นองค์ประกอบหลักที่ใหญ่ที่สุดใน 3 ส่วนของเส้นผม จะประกอบไปด้วยเคราตินเส้นยาวหลายสาย ที่มีการยึดเกาะกันด้วยกาวที่มีชื่อเรียกว่า เซลล์เมมเบรน คอมเพล็กซ์ (Membrane complex) และเม็ดสีเมลานินที่จะเป็นตัวกำหนดสีผม
- แกนผม (Medulla) ใจกลางของเส้นผมที่มีลักษณะเป็นรูกลวง เป็นลักษณะที่จะเป็นตัวกำหนดความหนาของเส้นผม
โดยการยืดผมเคราตินนั้น จะเป็นกระบวนการทางเคมีที่จะช่วยแทรกเคราตินเข้าไปในชั้นเนื้อผม ที่ซึ่งเป็นชั้นที่มีความใหญ่ที่สุด โดยจะส่งผมให้เส้นผมเรียบตรง เงางาม ไม่แห้งฟู
ทำความรู้จัก ยืดผมเคราติน คือ อะไร?
โดยปกติแล้ว เคราติน คือ โปรตีนที่มักจะอยู่ในเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ สำหรับการยืดผมเคราตินนั้นหมายถึงการทำทรีตเมนต์เคราติน เพื่อเป็นการบำรุงผมที่สามารถทำได้ทั่วไปที่ร้านเสริมสวย โดยช่างทำผมมักนิยมใช้เคราตินครีมที่มีสารเคมี ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นส่วนผสม โดยสารเคมีชนิดนี้จะซึมเข้าสู่เส้นผมด้วยการเป่าให้แห้ง และการรีดซ้ำด้วยที่หนีบผม ซึ่งขั้นตอนการทำผมเหล่านี้จะเป็นการทำให้เกิดปฏิกิริยากับเครตินในเส้นผม ส่งผลให้ผมที่มีลักษณะหยิกหรือผมที่มีลักษณะหยักศก มีความตรงมากยิ่งขึ้น
ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) สารเคมีที่เป็นส่วนผสมของเคราตินครีม ถือเป็นสารที่มีอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากฟอร์มาลดีไฮด์เป็นก๊าซที่ไม่มีสี แต่มีกลิ่นที่รุนแรง หากมีการสัมผัสดวงตาหรือผิวหนัง ฟอร์มาลดีไฮด์จะส่งผมให้เกิดอาการระคายเคืองที่ตา จมูก และบริเวณลำคอ อาจทำให้เกิดอาการไอ หายใจไม่สะดวก รวมไปถึงอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ที่รุนแรงที่บริเวณดวงตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับฟอร์มาลดีไฮด์ในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้เกิดมะเร็งได้ และเมื่อเคราตินครีมได้รับความร้อนจะยิ่งปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ที่มีความเข้มข้นสูงออกมา ส่งผลให้ช่างทำผมที่มีการใช้เคราตินในการดูแลเส้นผมให้ลูกค้าบ่อยๆ อาจมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งมากที่สุด อย่างไรก็ตามในกรีณีที่ไม่ได้มีการแพ้ ความอันตรายที่เกิดขึ้นนั้นอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ทำทรีตเมนต์ แต่จะเป็นการส่งผลกระทบต่อช่างที่มีการใช้เคราติน
ความแตกต่างของการ ยืดผมถาวร และการ ยืดผมเคราติน
การยืดผมถาวร เป็นการทำเคมีผมที่จะเปลี่ยนโครงสร้างของเส้นผมจากผมที่มีลักษณะหยิก หรือผมที่มีลักษณะหยักศก ให้กลายเป็นผมที่มีลักษณะตรงอย่างถาวร หลังจากการยืดผมถาวรเส้นผมอาจมีลักษณะตรงทื่อ และมีลักษณะลีบลง แลดูไม่เป็นธรรมชาติ เมื่อผมมีความยาวขึ้นหรือมีผมงอกขึ้นใหม่ ผมจะหยิกตามลักษณะผมเดิมส่งผลให้อาจจะต้องทำการยืดผมถาวรซ้ำบ่อยๆ ทำให้เส้นผมแห้งเสีย ขาด หรือชี้ฟูได้ หากไม่ได้มีการบำรุงที่ดีมากพอ
แต่ในขณะเดียวกันการยืดผมเคราติน หรือจริงๆ แล้วคือการทำทรีตเมนต์เคราติน จะเป็นการเข้าไปเติมเต็มโปรตีนที่มีอยู่แล้วในเส้นผม เป็นการยืดชั่วคราวที่จะช่วยทำให้ผมกลับมาสู่โครงสร้าง และได้ผลลัพธ์จากการที่ผมเรียบสลวย ผมแลดูตรงมากขึ้น มีน้ำหนัก ไม่ลีบแบน เงางาม แลดูเป็นธรรมชาติมากกว่า จึงทำให้หลายคนเรียกการทำทรีตเมนต์เคราตินว่าเป็น การยืดเคราติน นั่นเอง
ยืดผมเคราตินสด สามารถช่วยบำรุงผมให้สวยได้จริงหรือไม่?
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำเคราตินบนเส้นผมนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคลว่ามีความแข็งแรงแค่ไหน มีความหนามากน้อยเพียงใด แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้เคราตินบำรุงผม ทรีตเมนต์เคราตินจะส่งผมให้สภาพเส้นผมมีลักษณะดังต่อไปนี้
- ทำให้เส้นผมเรียบ ไม่ชี้ฟู
- ช่วยเติมโปรตีนในช่องว่างของเส้นผมแต่ละเส้น อีกทั้งยังทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง
- ทำให้ผมแลดูหนามากยิ่งขึ้น และสลวยมากขึ้น
- ผมแลดูเงางาม ยืดตรงเป็นธรรมชาติ
- ส่งผมให้สามารถดูแลผมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จัดทรงได้ง่าย ผมไม่พันกัน
ข้อดี ยืดผมเคราติน ดีไหม ?
ในทุกๆวัน ผมที่โดนความร้อน ผ่านการทำสีผม การยืดผม การดัดผม รวมไปถึงแสงแดดและมลภาวะ ทำให้เคราตินในเส้นผมถูกทำลายไป ส่งผมให้เส้นผมเกิดการแห้งเสีย ชี้ฟู ผมขาด ผมไม่มีน้ำหนัก และอาจจัดทรงยาก การยืดผมเคราตินหรือการทำทรีตเมนต์เคราตินจะเป็นการเข้าไปเติมเต็มเคราตินที่มีอยู่แล้วในเส้นผม ให้กลับสู่โครงสร้าง ทำให้ผมมีความเงานุ่ม เรียงเส้น ไม่ลีบแบน ตรงสวย ไม่ชี้ฟู โดยการยืดผมเคราตินหรือการทำทรีตเมนต์เคราตินสามารถทำแทนการยืดผมได้ แต่ผลลัพธ์หลักที่จะได้จากการยืดผมเคราตินนั้นนอกเหนือไปจากการที่จะมีเส้นผมที่ตรง จะทำให้เส้นผมแลดูสุขภาพดีและที่สำคัญคือสามารถที่จะสระผมหรือมัดผมได้ ซึ่งเป็นข้อดีที่จะแตกต่างไปจากการยืดผมแบบถาวร
ข้อเสียของการยืดผมเคราติน
การยืดผมเคราตินนั้นไม่ใช่มีเพียงแค่เฉพาะข้อดีเพียงอย่างเดียว ข้อเสียเองก็มีเช่นเดียวกัน เนื่องจากการยืดผมเคราตินเป็นการยืดผม ที่ทำให้ผมตรงเพียงชั่วคราว จึงอาจส่งผลให้ต้องมีการทำซ้ำอยู่บ่อยครั้ง และการยืดผมเคราตินอยู่เป็นประจำจะทำให้เคราตินเข้าไปเคลือบเส้นผมให้มีความหนาขึ้น อาจส่งผลให้เส้นผมนั้นแลดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ค่อยนุ่มลื่น และอาจมีสัมผัสที่แข็งกระด่างได้ รวมไปถึงอาจยากต่อการดัดและการม้วนลอนให้อยู่ทรง
สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ยืดผมเคราติน
สำหรับผู้ที่กำลังสนใจในการยืดผมเคราตินหรือการทำทรีตเมนต์เคราตินที่เส้นผม การยืดผมเคราตินมีสิ่งที่ควรรู้เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจดังต่อไปนี้
- ในการทำเคราตินนั้นใช้เวลาในการทำประมาณ 90 นาที หรืออาจมากกว่านั้น อาจขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม
- สำหรับผู้ที่ชื่นชอบให้ผมแลดูมีความตรง การยืดผมเคราตินนั้นจะช่วยลดเวลาในการเป่าผม หรือจัดแต่งทรงผมลงไปได้ 40-60% โดยประมาณ
- หลังจากการยืดเคราตินไม่จำเป็นต้องมานั่งกังเวลเกี่ยวกับความชี้ฟูของเส้นผม
- หากมีการยืดผมเคราตินแล้วแนะนำเปลี่ยนไปใช้ยาสระผมที่ไม่มีโซเดียมซัลเฟต (Sodium Sulfate) เพื่อเป็นการรักษาประสิทธิภาพของเคราติน ให้คงอยู่ในเส้นผมมากที่สุด
หากเกิดอาการแพ้หลังจากการยืดผมเคราตินหรือการทำทรีตเมนต์เคราติน ควรรีบเข้าพบแพทย์ในทันทีเพื่อที่แพทย์จะสามารถทำการวินิจฉัยและทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วน จากแหล่งที่มา
- https://www.webmd.com/beauty/features/keratin-hair-straightening-treatments#1
- http://www.center4research.org/whats-deal-keratin-treatments/