คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนรูปแบบหนึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังชั้นล่างหรือผิวหนังแท้ (Dermis) มีหน้าที่ยึดติดอวัยวะภายในร่างกายและเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่ออวัยวะต่าง ๆ เช่น ข้อต่อ ผิวหนัง เส้นผม เล็บ เป็นต้น ซึ่งร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้ตามกลไกธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นทำให้การสร้างคอลลาเจนลดลง การบำรุงและเสริมสร้างคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายให้ได้ปริมาณตามร่างกายต้องการ ไม่สามารถใช้วิธีทาครีมได้ ต้องเป็นการบำรุงจากภายในร่างกาย เช่น การรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนหรืออาหารที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น
คอลลาเจนแบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
ร่างกายมีคอลลาเจนมากถึง 16 ชนิด แต่คอลลาเจนที่จำเป็นต่ออวัยวะทุกส่วนภายในร่างกายและพบบ่อยที่สุด มี 4 ชนิด รายละเอียดต่อไปนี้
- Collagen Type I เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1 ทำหน้าที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกายและสมานแผลต่าง ๆ ส่วนใหญ่พบได้บริเวณผิวหนัง เส้นผม ข้อต่อกระดูก เนื้อเยื่อภายในร่างกาย และผนังของหลอดเลือด
- Collagen Type II เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 2 ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่มีความยืดหยุ่นกว่าคอลลาเจนชนิดแรก ส่วนใหญ่พบได้บริเวณกระดูก ข้อต่อ และกระดูกอ่อน
- Collagen Type III เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 3 ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและหลอดเลือด
- Collagen Type V เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 5 ทำหน้าที่เสริมสร้างเนื้อเยื่ออวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย มีส่วนสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์
อายุเท่าไหร่ ร่างกายสร้างคอลลาเจนลดลง
คอลลาเจนภายในร่างกายเป็นส่วนประกอบหลักของโปรตีนมากถึง 80% เมื่ออายุมากขึ้นการผลิตคอลลาเจนของร่างกายลดลง เริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป และเห็นผลชัดเจนว่าร่างกายผลิตคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เมื่ออายุ 40 ปี สามารถสังเกตได้จากริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ข้อต่อกระดูกไม่แข็งแรงขยับร่างกายมีเสียงดัง เป็นต้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่คอลลาเจนมีความสำคัญต่อร่างกายที่สุด
คอลลาเจนมีผลต่อความงาม (ผิว) อย่างไร
เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนรูปแบบหนึ่งที่มีโครงสร้างเป็นกรดอะมิโนโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งคอลลาเจนมีกรดอะมิโน 3 ชนิด เรียกว่า คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) และคอลลาเจนเกิน 90% เป็นโครงสร้างของผิวหนัง ดังนั้นเมื่อร่างกายผลิตคอลลาเจนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายโครงสร้างผิวหนังแข็งแรง พันธะคอลลาเจนไม่ขาดจึงส่งผลให้ผิวพรรณเต่งตึง ไม่แห้งกร้าน ผิวสุขภาพแข็งแรง ไม่เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือสิว เป็นต้น
คอลลาเจน ประโยชน์
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย เมื่อคอลลาเจนภายในร่างกายมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อไปนี้
- ผิวพรรณทั้งเรือนร่างเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกราบกร้าน เพราะคอลลาเจนเสริมสร้างความยืดหยุ่นของโครงสร้างภายในผิวหนังแท้
- ชะลอความแก่และริ้วรอยแห่งวัย เมื่ออายุมากขึ้นการสร้างคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย คอลลาเจนสายพันธะใต้ผิวหนังขาดไม่ยึดเกราะ ส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย ตีนกา ต่าง ๆ ได้ เมื่อคอลลาเจนถูกนำเข้าสู่ร่างกายเพียงพอ โครงสร้างผิวหนังแข็งแรง ริ้วรอยจางลง ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
- บำรุงเล็บ เส้นผมให้แข็งแรง ลดการเปราะหักของเล็บ และ บำรุงเส้นผมยาวรวดเร็ว ไม่ขาดหลุดร่วง
- ลดการสลายของมวลกระดูก เมื่อเสริมคอลลาเจนภายในร่างกายคู่กับวิตามินดีหรือแคลเซียม ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ไม่เปราะบาง ลดการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับมวลกระดูก เช่น โรครูมาตอยด์ เป็นต้น
- ช่วยบำรุงข้อต่อและกระดูกให้แข็งแรง ลดการเกิดโรคข้อต่อในผู้สูงวัยได้
คอลลาเจนบำรุงกระดูก
คอลลาเจนสามารถบำรุงกระดูกได้ โดยคอลลาเจนทำหน้าที่บำรุงกระดูกและข้อต่อของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen type II) ซึ่งเป็นคอลลาเจนเสริมสร้างความหนาแน่นของมวลกระดูกส่งผลให้กระดูกแข็งแรง และซ่อมแซมโครงสร้างของกระดูกที่เสื่อมสภาพ ลดการอักเสบของข้อต่อ ช่วยให้การเคลื่อนไหวร่างกายคล่องแคล่ว ห่างไกลโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ โดยอาหารที่มีคอลลาเจนชนิดดังกล่าวสูง ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้คอลลาเจนในร่างกายลดลง
คอลลาเจนภายในร่างกายลดลงได้ โดยมีปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากอายุเช่นกัน สาเหตุส่วนใหญ่ที่สามารถทำลายคอลลาเจนในร่างกายได้ มีดังนี้
- รังสี UV จากแสงแดด เนื่องจากรังสียูวีเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนังและทำลายเซลล์ DNA ที่สร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังส่งผลให้คอลลาเจนโครงสร้างของผิวหนังสลายตัว ผิวพรรณจึงบอบบาง เกิดริ้วรอย และปัญหาผิวง่าย วิธีการแก้ไขทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA++ ป้องกันอันตรายจากรังสียูวี
- สูบบุหรี่ สารต่าง ๆ ของบุหรี่สามารถทำลายคอลลาเจนและสารอาหารผิวทุกชนิด ส่งผลให้คอลลาเจนภายในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว วิธีการแก้ไขเลิกบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันจากบุหรี่
- ขาดวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีทำหน้าที่กระตุ้นร่างกายผลิตคอลลาเจน วิธีการแก้ไขรับประทานอาหารหรือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง เป็นต้น
- ความเครียดสะสมระยะเวลานาน เมื่อร่างกายมีภาวะเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ชื่อว่า “คอร์ติซอล” เป็นฮอร์โมนทำหน้าที่ทำลายคอลลาเจนและขัดขวางการผลิตคอลลาเจน ส่งผลให้เกิดคอลลาเจนลดลงและไม่มีคอลลาเจนใหม่ทดแทน วิธีแก้ไขไม่เครียดเป็นเวลานาน
- รับประทานอาหารหวาน ซึ่งน้ำตาลเป็นศัตรูกับคอลลาเจน เพราะน้ำตาลทำลายคอลลาเจนและสร้างความอักเสบเซลล์ใต้ผิวหนังขั้นรุนแรง วิธีแก้ไขลดการทานหวานให้น้อยลง
ร่างกายขาดคอลลาเจนมีผลเสียอย่างไร
เมื่อร่างกายขาดคอลลาเจน ส่วนใหญ่นึกถึงผลเสียแค่ผิวพรรณและด้านความงาม ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากร่างกายขาดคอลลาเจนระยะเวลานาน ไม่มีคอลลาเจนทดแทน ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น ดังนี้
- ผิวแห้ง หยาบกร้าน ลอกเป็นขุย เพราะไม่มีคอลลาเจนสร้างความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง
- เลือดหยุดไหลช้า แผลต่าง ๆ สมานช้าลง เพราะไม่มีคอลลาเจนช่วยยึดเซลล์
- ปวดข้อเข่าข้อต่อ และกระดูกเปราะบาง เพราะไม่มีคอลลาเจนชะลอการสลายของมวลกระดูก
- กล้ามเนื้อลีบ เพราะคอลลาเจนเป็นโปรตีนภายในกล้ามเนื้อมากถึง 10% ของร่างกาย
- เส้นผมไม่แข็งแรง ขาดง่าย เพราะไม่มีคอลลาเจนบำรุงรากเส้นผมและหนังศีรษะ เส้นผมจึงหลุดร่วงง่าย
วิธีกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนถูกวิธี
เนื่องจากร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้ หากอายุไม่เกิน 40 ปี ยังไม่จำเป็นต้องทานคอลลาเจนเสริมเข้าร่างกาย สามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนตามปกติได้ ดังนี้
- ทานโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งโปรตีนที่ร่างกายต้องการสามารถคำนวณได้จากน้ำหนักของร่างกาย น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ต้องการโปรตีน 1 กรัม
- เลือกทานอาหารที่มีวิตามินซีและวิตามินอี เช่น ส้ม ฝรั่ง องุ่น ทับทิม คะน้า มะนาว ฯลฯ ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนมากขึ้น และช่วยชะลอการสลายของคอลลาเจนในอวัยวะต่าง ๆ
- ทานอาหารที่มีวิตามินเอ เนื่องจากวิตามินเอช่วยกระตุ้นให้สารหนึ่งที่ชื่อว่า “ไฟโบรบลาสต์” เจริญเติบโตเต็มที่ ซึ่งสารดังกล่าวทำหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
- หลีกเลี่ยงอาหารหวาน เพื่อให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนเต็มที่
- ดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพราะน้ำเปล่าเป็นส่วนประกอบหลักที่สำคัญในการผลิตคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นของโครงสร้างภายในร่างกาย
วิธีการทานคอลลาเจนให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี
การทานคอลลาเจนรูปแบบต่าง ๆ เช่น ผลไม้ อาหาร หรืออาหารเสริม ฯลฯ ร่างกายจะดูดซึมคอลลาเจนได้ดี ก็ต่อเมื่อทานถูกวิธี มี 4 คำแนะนำ ดังนี้
- ทานคอลลาเจนช่วงท้องว่าง เพราะร่างกายจะดูดซึมคอลลาเจนซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่
- หลังทานคอลลาเจนควรทานน้ำเปล่าสะอาดปริมาณ 8-10 แก้วต่อวัน
- ทานวิตามินซี อี หรือเอ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้มากขึ้น
- ทานคอลลาเจนให้เหมาะสมต่อร่างกาย ร่างกายต้องการคอลลาเจน 5,000-7,000 มิลลิกรัมเท่านั้น
สรุป
คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อทุกอวัยวะภายในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดคอลลาเจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิว กระดูก หลอดเลือด ฯลฯ ดังนั้นเมื่ออายุเกิน 20 ปี ควรเลือกรับประทานอาหารกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนภายในร่างกาย และเมื่ออายุเกิน 30 ปี สามารถรับประทานอาหารเสริมที่ปลอดภัยเพื่อนำคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ชะลอการเสริมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ และป้องกันโรคกระดูกผู้สูงวัย