5 กลุ่มอาหารต้องห้ามเรียนรู้ไว้ไม่เสียหายเมื่อ เป็นฝีห้ามกินอะไร สิ่งที่ควรรู้และควรหลีกเลี่ยงอย่าปล่อยให้อาหารของคุณขัดขวางการฟื้นตัวของคุณ
ฝีคืออะไร ฝีคือการสะสมของหนองที่เกิดขึ้นภายในเนื้อเยื่อของร่างกายอันเป็นผลมาจากการติดเชื้อ มักเกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราที่เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล บาดแผล หรือการบาดเจ็บในรูปแบบอื่นๆ ฝีเป็นโพรงที่เกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อของร่างกายติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคอื่นๆ เนื้อเยื่อที่ติดเชื้อจะพองตัวและเต็มไปด้วยหนอง ซึ่งเป็นของเหลวสีเหลืองข้นที่ประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย และเศษอื่นๆ ซึ่งสิ่งสำคัญเกิดมาจากอาหารและพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเรา เราจึงต้องทราบให้แน่ชัดว่า เป็นฝีห้ามกินอะไร และเลือกกินอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ฝีเกิดขึ้นได้ที่ไหนบ้างในร่างกาย
ฝีสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ในร่างกาย แต่พบได้บ่อยในบริเวณที่มีแนวโน้มที่จะบาดเจ็บ เช่น ผิวหนัง ฟัน และเหงือก นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ปอด และสมอง
อาการของฝี
อาการของฝี ได้แก่ ปวด บวม แดง และอุ่นในบริเวณที่เป็น รวมถึงมีไข้และอ่อนเพลียในบางกรณี ฝีสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ การระบายน้ำ และการผ่าตัดในกรณีที่รุนแรง สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์หากคุณสงสัยว่าเป็นฝี เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลสุขอนามัยและบาดแผลที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ฝีก่อตัวตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องฝีเป็นเรื่องใกล้ตัว
เป็นฝีห้ามกินอะไร ควรรู้
หากคุณมีฝี สิ่งสำคัญคือต้องจัดลำดับความสำคัญของสุขภาพและทำตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคืออาหารของคุณ ต้องหลีกเลี่ยงการกินอะไรเมื่อคุณเป็นฝีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติม ในบทความนี้ 5 กลุ่มอาหารที่ผู้เป็นห้ามกินอะไร ควรรู้ ดังนี้
ฝีคืออะไร คือการสะสมของหนองที่เกิดขึ้นภายในเนื้อเยื่อของร่างกายเป็นผลมาจากการติดเชื้อ มักเกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราที่เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล ฝีสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ในร่างกาย แต่พบได้บ่อยในบริเวณที่มีแนวโน้มที่จะบาดเจ็บ เช่น ผิวหนัง ฟัน และเหงือก นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ปอด และสมอง อาการของฝี ได้แก่ ปวด บวม แดง และอุ่นในบริเวณที่เป็น รวมถึงมีไข้และอ่อนเพลียในบางกรณี
น้ำตาล ( sugar )
เป็นฝีห้ามกินอะไร เป็นฝีห้ามน้ำตาลเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพต่างๆ รวมถึงการอักเสบในร่างกาย น้ำตาลที่ผ่านกระบวนการหรือน้ำตาลแปรรูป เช่น น้ำตาลทรายขาว เป็นส่วนประกอบทั่วไปในอาหารและเครื่องดื่มที่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาพบว่าการบริโภคน้ำตาลแปรรูปมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ หนึ่งในผลกระทบเหล่านี้คืออาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารตั้งต้นของการอักเสบที่เรียกว่าไซโตไคน์ (Pro-Inflammatory Cytokines) ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ไซโตไคน์เหล่านี้สามารถทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเรื้อรัง ดังนั้นหากคุณมีอาการที่เป็นอยู่ เช่น ฝี ควรงดหรืออย่างน้อยก็ลดการรับประทานอาหารแปรรูปที่เติมน้ำตาล สิ่งนี้จะช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมการรักษา
หากคุณมีฝี แนะนำให้งดหรือลดอาหารแปรรูปที่เติมน้ำตาล เนื่องจากน้ำตาลสามารถทำให้การอักเสบที่มีอยู่ในร่างกายรุนแรงขึ้นและทำให้อาการของฝีแย่ลง ทางที่ดีควรมุ่งเน้นไปที่การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบครบถ้วนสูง อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป เช่น ผลไม้ ผัก และโปรตีนไม่ติดมัน อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้สารอาหารที่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมการรักษาในร่างกาย
ไขมันอิ่มตัว ( Saturated fat )
ไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันในอาหารประเภทหนึ่งที่เชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพต่างๆ รวมถึงการอักเสบในเนื้อเยื่อไขมัน การอักเสบนี้อาจทำให้ปัญหาสุขภาพแย่ลงและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ดังนั้น เป็นฝีห้ามกินอะไร จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูงโดยเฉพาะ อาหารจำพวกเบอร์เกอร์ พิซซ่า เฟรนช์ฟราย และอาหารทอดอื่นๆ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มักมีไขมันอิ่มตัวสูง อาหารประเภทนี้ยังเต็มไปด้วยส่วนผสมที่เป็นอันตรายอื่นๆ เช่น ไขมันทรานส์และโซเดียม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้ ขอแนะนำให้เลือกแหล่งโปรตีนที่ไม่ติดมัน เช่น ไก่หรือปลา แทนเนื้อแดง ซึ่งมักมีไขมันอิ่มตัวสูง นอกจากนี้ การผสมผสานตัวเลือกจากพืช เช่น ถั่วและพืชตระกูลถั่ว สามารถช่วยลดปริมาณไขมันอิ่มตัวในขณะที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มเติม การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในอาหารของคุณอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ
r
คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี ( Refined Carbohydrates )
คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการแปรรูป (Refined Carbohydrates) มักเป็นอาหารหลักในอาหารของหลายๆ คน แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารเช่นขนมปังขาวและข้าวขาวเป็นตัวอย่างของคาร์โบไฮเดรตขัดสีที่อาจมีผลเสียต่อร่างกายในการติดเชื้อ คาร์โบไฮเดรตประเภทนี้จัดอยู่ในกลุ่มดัชนีน้ำตาลสูงหรืออาหารที่มีคุณค่าทางไกลซีมิกสูง ซึ่งสามารถกระตุ้นการผลิต Advanced Glycation End Products (AGEs) ในร่างกายได้ AGEs เป็นสารที่เกิดจากการกินโปรตีนและน้ำตาลมากเกินไป และเมื่อมีปริมาณมากเกินไปในร่างกาย ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้ เนื่องจากการอักเสบมีอยู่แล้วและอาจแย่ลงได้หากบริโภคอาหารจำพวกนี้สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงสิ่งที่เรากินในระหว่างที่เราเป็นฝี เนื่องจากร่างกายของเราต้องการสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อรักษาและต่อสู้กับการติดเชื้อ การเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เมล็ดธัญพืชสามารถให้สารอาหารที่จำเป็นโดยไม่ทำให้ฝีมีการอักเสบ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ( alcohol )
อวัยวะที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากแอลกอฮอล์คือตับ การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ตับทำงานหนักขึ้นในการสลายสารพิษในแอลกอฮอล์ ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มาก ตับยิ่งต้องทำงานหนัก การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักและเป็นเวลานานอาจทำให้ตับถูกทำลายหรือล้มเหลวได้ เนื่องจากความสามารถในการทำงานของตับจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่นๆ เนื่องจากตับมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสมดุลของสารเคมีในร่างกาย ดังนั้นจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อต้องรับมือกับฝีในตับหรือภาวะที่เกี่ยวข้องกับตับ การดูแลสุขภาพตับเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากตับมีบทบาทสำคัญในการทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง ช่วงเวลาที่เป็นฝีไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะดีที่สุด เพื่อปกป้องตับและสุขภาพโดยรวมของเรา
กรดไขมันโอเมก้า 6 ( Omega-6 fatty acid )
กรดไขมันโอเมก้า 6 เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม การบริโภคอาหารที่มีกรดโอเมก้า 6 สูงมากเกินไป เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง มายองเนส และน้ำสลัดบางชนิด สามารถกระตุ้นการหลั่งสารตั้งต้นที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การอักเสบและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงการบริโภคกรดไขมันโอเมก้า 6 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังเผชิญกับฝี เพื่อช่วยให้การรักษาเร็วขึ้น ขอแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีกรดโอเมก้า 6 ในช่วงเวลานี้ ให้มุ่งเน้นไปที่การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยอาหารต้านการอักเสบ เช่น ผักใบเขียว เบอร์รี่ ปลาที่มีไขมัน ถั่ว และเมล็ดพืชแทน อาหารประเภทนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมการรักษา
สรุป
ฝี การสะสมของหนองที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา โดยปกติแล้ว ฝีจะพบได้บ่อยในบริเวณของร่างกายที่มีแนวโน้มที่จะบาดเจ็บ เช่น ผิวหนัง ฟัน และเหงือก อย่างไรก็ตาม ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ปอด และสมอง อาการของฝีมักจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนและรวมถึงอาการปวด บวม แดง และอุ่นในบริเวณที่เป็น นอกจากนี้ บางคนอาจมีอาการไข้และอ่อนเพลียด้วย สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์หากคุณสงสัยว่าคุณมีฝี เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา ในบางกรณี ฝีอาจต้องระบายออกหรือผ่าตัดเอาออก
สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย หลายท่านที่กำลังหาวิธีรับมือกับฝีอยู่ เกิดข้อสงสัยว่า เป็นฝีห้ามกินอะไร อย่างแรกเลยคือการดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นตัว วิธีหนึ่งในการทำเช่นนี้คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แมีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารที่สมดุลซึ่งมีทั้งผลไม้ ผัก และโปรตีนไม่ติดมันสามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในกระบวนการบำบัดได้ สิ่งสำคัญคือต้องดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มและอาหารที่มีน้ำตาล ไขมันอิ่มตัว คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี กรดไขมันโอเมก้า 6 และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วน จากแหล่งที่มา
- https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/22876-abscess
- https://mdc.mo.gov/wildlife/wildlife-diseases/abscesses
- https://pharmeasy.in/blog/food-habits-what-to-eat-and-what-to-avoid-in-anal-fistula/
- https://www.petcharavejhospital.com
