[เจาะลึก] สิวหัวช้าง เกิดจากอะไร อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษา

สิวหัวช้าง ลักษณะของสิวที่มีการอักเสบอย่างรุนแรง ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกบริเวณของผิวหน้า ที่ทั้งสร้างความรำคาญใจและส่งผลกระทบต่อจิตใจ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่ทำให้ขาดความมั่นใจอย่างมากเลยทีเดียว นอกจากนี้สิวหัวช้างยังเป็นชนิดของสิวที่มีอาการเจ็บปวดมากกว่าสิวลักษณะอื่นๆ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง ขนาดใหญ่ และมีความแข็ง ที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด เมื่อสัมผัสโดนจะมีอาการเจ็บปวด และยังเป็นสิวที่มักจะทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้ย้ำเตือนอยู่เสมอ

สิวหัวช้างมีหนอง คืออะไร?

สิวหัวช้าง หรือ สิวหัวใหญ่ (Nodulocystic acne) เป็นลักษณะของ สิวอักเสบ ที่มีลักษณะขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการอุดตันของระบบต่อมไขมันในรูขุมขน ที่ได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศชาย และเกิดการอักเสบอย่างรุนแรงที่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไป จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สิวหัวช้างเป็นลักษณะของสิวที่ไม่มีหัว เป็นตุ่มนูนแดงที่มีอาการอักเสบ จึงไม่สามารถที่จะรักษาได้ด้วยการกดสิว และเป็นสิวที่สามารถรักษาให้หายได้ยากกว่าสิวชนิดอื่นๆ อาจใช้เวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนาน

สิวหัวช้าง มีลักษณะและอาการอย่างไร?

ลักษณะและอาการของสิวหัวช้าง แตกต่างไปจากสิวอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสิวหัวช้างนั้นจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง และมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ มีลักษณะเป็นไต มีเลือดและหนองคั่งอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการสัมผัสโดนในบริเวณที่เป็นสิวหัวช้าง หรือบริเวณรอบๆ บริเวณใกล้เคียง จะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจน และการเกิดสิวหัวช้างนั้นยังไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน เนื่องจากสามารถเกิดได้ทั้งบนบริเวณใบหน้า, บริเวณอก รวมไปถึงบริเวณผิวหนังส่วนอื่นๆ นอกจากอาการเหล่านี้ที่เกิดขึ้นแล้ว หากมีการทิ้งสิวหัวช้างไว้เป็นระยะเวลาที่นานโดยที่ไม่ได้รับการรักษา หรือรักษาอย่างไม่ถูกวิธี อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อนเหล่านี้ตามมาได้

สิวหัวช้าง มีลักษณะและอาการอย่างไร?
รูปภาพประกอบจาก Freepik

อาการแทรกซ้อนจากการเกิดสิวหัวช้าง มีอะไรบ้าง?

  1. รอยหลุมสิวขนาดเล็กและขนาดใหญ่
  2. รอยขรุขระบนผิวหนัง
  3. รอยแผลเป็นและรอยนูนแดง
  4. รอยดำคล้ำ

สิวหัวช้างเกิดจาก สาเหตุอะไร?

การเกิดสิวหัวช้าง มีสาเหตุเหมือนๆ กับการเกิด สิว ลักษณะอื่นๆ ที่เกิดจากการอุดตันที่รูขุมขน จากทั้งการอุดตันของเซลล์ผิวหนังที่ตายไปแล้ว น้ำมันที่ถูกผลิตออกมามากจนเกินไป การทำงานของเชื้อแบคทีเรียสิว และการอักเสบ การตอบของระบบภูมิคุ้มกัน โดยการเกิดสิวหัวช้างอาจมีการพัฒนามาจากสิวอุดตันได้เช่นเดียวกัน เมื่อมีการอุดตันและมีการติดเชื้อที่ใต้ผิวหนังและระบบภูมิคุ้มกันเกิดการตอบสนองจนทำให้เกิดการอักเสบขึ้น เมื่อระยะเวลาผ่านไปเกิดการรวมกันของเศษซากเชื้อโรคและระบบภูมิคุ้มกัน อาจเกิดเป็นสิวหัวช้างมีหนอง (Pus) อยู่ใต้ผิวหนังขึ้นมาได้ ซึ่งสาเหตุการเกิดสิวหัวช้างมักมีปัจจัยและสาเหตุอื่นๆ ที่เข้ามากระตุ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ปัจจัยและสาเหตุที่เข้ามากระตุ้นการเกิด สิวหัวช้าง คืออะไร?

  • การเกิดสิวหัวช้างจากกรรมพันธุ์
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน อาทิเช่น ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen), ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) และฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
  • ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol)
  • การมีประจำเดือน
  • การตั้งครรภ์
  • การอยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือน
  • ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (Polycystic ovary syndrome :PCOS)
  • ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด อาทิเช่น ลิเทียม (Lithium) และ ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
  • การรับประทานอาหารจำพวกแป้ง และอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง อยู่เป็นประจำ
  • มลพิษทางอากาศ
  • การเสียดสีของผิว
  • การสะสมของสิ่งสกปรก
ปัจจัยและสาเหตุที่เข้ามากระตุ้นการเกิด สิวหัวช้าง คืออะไร?
รูปภาพประกอบจาก Freepik

วิธีการรักษา สิวหัวช้างรักษายังไง?

การรักษาสิวหัวช้างอย่างถูกวิธี จะส่งผลให้อาการบวมแดง อาการเจ็บปวดทุเลาลงไวมากขึ้น และจะไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นไว้กวนใจ ซึ่งการรักษาสิวหัวช้างที่ถูกต้อง ควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาตามคำแนะนำ ที่ได้รับจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง หรือได้รับคำแนะนำและคำปรึกษาจากเภสัชกรโดยเฉพาะ เนื่องจากสิวหัวช้างเป็นสิวที่มีการอักเสบอย่างรุนแรง และมีขนาดที่ใหญ่ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง ตามมาได้ และเพื่อความปลอดภัยจากการใช้ยาในการรักษาที่อาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมา โดยแพทย์จะเลือกแนวทางการรักษาตามอาการ ตามความรุนแรงที่เกิดขึ้น และตามความเหมาะสม ยาบางชนิดอาจไม่สามารถใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ได้ ดังนั้นก่อนเลือกใช้ยาเพื่อรักษาสิวหัวช้าง ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเท่านั้น

  • รักษาโดยการรับประทานยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ เช่น ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) เพื่อควบคุมเชื้อแบคทีเรียและลดอาการอักเสบ
  • รักษาโดยการรับประทานยาคุมกำเนิด หากสาเหตุการเกิดมาจากประจำเดือน ที่ส่งผลให้ฮอร์โมนแปรปรวน การรับประทานยาคุมที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) สามารถช่วยลดสิวได้
  • รักษาโดยการรับประทานยาไอโซเทรติโนอิน (Isotretinoin) เพื่อจัดการกับสาเหตุของการเกิดสิว
  • รักษาโดยการรับประทานยาสไปโรโนแลคโตน (Spironolactone) ยาขับปัสสาวะเพื่อรักษาสิวหัวช้าง
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว เจลแต้มสิว ที่มีส่วนประกอบของ เรตินอล เพื่อช่วยลดอาการอักเสบและลดรอยสิว

ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) ข้อบ่งใช้

ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) คือ ยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ยกตัวอย่างเช่น การใช้เพื่อรักษาเชื้อที่ทำให้เกิดสิว โดยด็อกซีไซคลิน คือ ยาปฏิชีวนะที่ถูกจัดอยุ่ในกลุ่มเตตราไซคลีน (Tetracyclines) ที่จะทำงานโดยการเข้าไปหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ในการใช้ยาด็อกซีไซคลิน มีข้อความระวังในการใช้งาน ก่อนเลือกใช้งานควรได้รับคำแนะนำ และแจ้งประวัติกับแพทย์หรือเภสัชกรอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัย หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงต้องหยุดการใช้และเข้าพบแพทย์ในทันที

ยาคุมกำเนิด ข้อบ่งใช้

การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จะช่วยลดความแปรปรวนของฮอร์โมน และมีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชายที่อาจก่อให้เกิดสิว โดยการเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดอาจมีอาการข้างเคียงในการรับประทาน เช่น อาการคลื่นไส้ เป็นต้น หากต้องการเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิว ก่อนเลือกทานควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องเช่นเดียวกัน หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงต้องหยุดการใช้และเข้าพบแพทย์ในทันทีเพื่อความปลอดภัย

ยาไอโซเทรติโนอิน (Isotretinoin) ข้อบ่งใช้

ยาไอโซเทรติโนอิน (Isotretinoin) จัดอยู่ในประเภทของยาเรตินอยด์ (Retinoids) ใช้เพื่อรักษาสิวหัวช้าง สิวที่มีอาการอักเสบอย่างรุนแรง และไม่มีการตอบสนองต่อการรักษาประเภทอื่นๆ ยาไอโซเทรติโนอิมีหน้าที่การทำงานช่วยลดการสร้างความมันบนใบหน้า ที่อาจก่อให้เกิดสิวได้ เนื่องจากยาไอโซเทรติโนอินเป็นยาที่อาจมีอาการข้างเคียงในการรับประทานร่วมกับยารักษาอื่นๆ และมีข้อควรระวังในการใช้งาน ในการเลือกรับประทานยาไอโซเทรติโนอินเพื่อรักษาสิวหัวช้าง ควรได้รับคำแนะนำและปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัย หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงต้องหยุดการใช้และเข้าพบแพทย์ในทันที

สรุป สิวหัวช้าง

สิวหัวช้างมีหนอง มีสาเหตุการเกิดไม่แตกต่างไปจากสิวชนิดอื่นๆ ที่ขึ้นบนใบหน้าและตามร่างกาย แต่อาจมีลักษณะของสิวหรือขนาดของสิวที่แตกต่างไปจากสิวชนิดอื่นๆ สิวหัวช้างอาจมีอาการเจ็บปวด บวมแดง และมีการอักเสบที่รุนแรงมากกว่าสิวชนิดอื่น แต่สามารถที่จะรักษาให้หายได้ โดยการรักษาสิวหัวช้างอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาที่นานกว่าและจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผิวตามมา อาทิเช่น รอยดำ, รอยแดง, หลุมสิว และผิวที่ไม่เรียบเนียน หากในตอนนี้คุณกำลังประสบปัญหาสิวหัวช้าง หรือมีสิวหัวช้างเกิดขึ้นในบริเวณใบหน้าหรือร่างกาย ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานโดยเด็ดขาด ควรเข้ารับการรักษาโดยด่วนที่สุด เพราะสิวหัวช้างอาจก่อให้เกิดร่องรอยต่างๆ ตามมาและกลายเป็นปัญหาผิวระยะยาวได้

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม จากแหล่งที่มา

Scroll to Top