ปวดท้องตรงกลาง คลื่นไส้ พะอืดพะอม เวียนหัว เป็นๆหายๆ สัญญาณอันตราย

อาการปวดท้องตรงกลาง ลื่นไส้ พะอืดพะอม เวียนหัว เป็นๆหายๆ คือ อาการปวดที่เกิดขึ้นได้ทุกเพศและทุกวัย โดยสาเหตุของอาการปวดเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะภายในหรือภายนอกของช่องท้องสามารถกระตุ้นให้มีอาการปวดท้องได้ทั้งหมด ซึ่งอาการปวดท้องตรงกลาง มี 3 ตำแหน่ง ได้แก่ เหนือสะดือ เป็นบริเวณที่ใกล้หัวใจ กระเพาะอาหารและตับอ่อน กลางท้องรอบสะดือ เป็นบริเวณที่ใกล้ลำไส้เล็กและไส้ติ่ง สุดท้าย ใต้สะดือ เป็นบริเวณที่ใกล้กับกระเพาะปัสสาวะ มดลูก ต่อมลูกหมาก ดังนั้นเมื่อมีอาการปวดท้องทุกตำแหน่งข้างต้น อาจเกิดจากอวัยวะใกล้เคียงผิดปกติ ทำให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพให้ผู้ป่วยทราบ เพื่อพิจารณาอาการและหาวิธีรักษาที่ถูกต้อง 

ปวดท้องตรงกลาง อาการไหน อันตรายอย่ามองข้าม 

เนื่องจากการปวดท้องตรงกลางสามารถปวดได้หลายรูปแบบ หลายตำแหน่ง  โดยแต่ละรูปแบบ แต่ละตำแหน่งมีปัญหาสุขภาพแทรกซ้อนแตกต่างกัน หากต้องการสังเกตอาการปวดท้องที่อันตรายต่อสุขภาพ ให้พิจารณาอาการปวดท้องที่มีอาการอื่นร่วมด้วยเป็นหลัก เช่น อาเจียน ไข้ขึ้น เวียนหัว รู้สึกอ่อนแรง ฯลฯ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งทุก ๆ อาการที่เกิดขึ้น ไม่ใช่อาการปวดท้องปกติที่หายเองได้ ส่วนใหญ่มีปัญหาสุขภาพแฝงตัวอยู่ ควรเข้ารับการรักษาให้ถูกวิธี และมี 7 อาการปวดท้องที่แพทย์พบบ่อยที่สุด ดังนี้ 

ปวดท้องบิดจุก ตรงกลาง เป็นๆ หายๆ เกิดจากอะไร รักษายังไง

เมื่อมีอาการปวดท้องตรงกลางเป็นระยะ ไม่หายขาด และมีอาการแสบ จุก แน่นที่บริเวณหน้าอกร่วมด้วย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เป็นอาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แต่ถ้าหายใจมีกลิ่นอาหารออกมา แสบที่อกและจะเป็นทุกครั้งที่รู้สึกหิว เป็นอาการของโรคกรดไหลย้อน หรือมีอาการท้องเสีย ปวดบิดรุนแรงรอบสะดือ เป็นอาการไส้ติ่งอักเสบ ต้องเข้ารับการรักษาด่วนที่สุด เพราะอันตรายถึงขั้นผ่าตัด 

วิธีการรักษาเบื้องต้น ถ้าเป็นระยะแรกสามารถทานยาแก้ปวด และสังเกตอาการไปเรื่อย ๆ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้มีอาการ หากดูแลตามขั้นตอนแล้ว มีอาการนานเกิน 14 วันหรือปวดรุนแรงมากขึ้นให้พบแพทย์ทันที 

ปวดท้องตรงกลาง จี๊ดๆ เกิดจากอะไร รักษายังไง

หากมีอาการปวดท้องจี๊ด ๆ ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ชัดเจน ปวดขวาบ้าง ซ้ายบ้าง แล้วยังคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ และท้องเสียรุนแรงร่วมด้วย จะเป็นอาการของโรคลำไส้อักเสบชนิดเฉียบพลัน โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่สุกและไม่สะอาดเข้าไป ถ้าปล่อยให้อาการปวดรุนแรงไปเรื่อย ๆ สามารถเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ 

วิธีการรักษาเบื้องต้น ให้รับประทานอาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ก่อนในช่วง 2-3 วันแรกที่มีอาการ หากท้องเสียบ่อย ให้จิบเกลือแร่และทานยาลดไข้ หากดูแลตามขั้นตอนแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้พบแพทย์ทันที 

ปวดท้องตรงกลางพะอืดพะอม เกิดจากอะไร รักษายังไง

อาการปวดท้องตรงกลางและรู้สึกว่าไม่สบายท้อง พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา ถ้าเป็นผู้หญิงมักจะถูกตีความว่าตั้งครรภ์ แต่สิ่งที่แพทย์วินิจฉัยพบบ่อยที่สุด คือ อาหารไม่ย่อย ซึ่งผู้ป่วยบางรายมีอาการท้องเสีย และจุกเสียดแน่นท้องร่วมด้วย สาเหตุของอาหารไม่ย่อยเกิดจากการรับประทานอาหารเร็วเกินไป เคี้ยวไม่ละเอียด ร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารได้ทัน จึงมีอาการดังกล่าวขึ้นมาได้

วิธีการรักษาเบื้องต้น ควรรับประทานอาหารให้ตรงตามเวลาและเคี้ยวให้อาหารละเอียดก่อนกลืนลงท้อง ร่างกายจะได้ย่อยอาหารง่ายขึ้น และช่วงที่มีอาการปวดท้องพะอืดพะอมอยู่ให้ทานอาหารอ่อน ๆ ก่อน หากดูแลตามขั้นตอนแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้พบแพทย์ทันที

ปวดท้องตรงกลางเหนือสะดือ เกิดจากอะไร รักษายังไง

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดกลางท้องในตำแหน่งเหนือสะดือขึ้นไป และมีอาการจุกท้องมีลมในกระเพาะเยอะ แสบท้องในช่วงที่รู้สึกหิวร่วมด้วย โดยอาการปวดจะไม่มีสัญญาณเตือนก่อน อยู่ ๆ ก็ปวดเฉียบพลันขึ้นมาทันที จะเป็นอาการของโรคกระเพาะอาหาร เกิดจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา อดอาหาร เป็นต้น 

วิธีการรักษาเบื้องต้น รับประทานอาหารตรงเวลาและครบทุกมื้อ หากดูแลตามขั้นตอนแล้วอาการปวดท้องเหนือสะดือไม่ดีขึ้น ให้พบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที  

ปวดท้องตรงกลาง ปวดหลัง เกิดจากอะไร รักษายังไง

ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องและปวดหลังร่วมด้วย มักจะมีอาการเรื้อรัง จึงไม่ได้รับการใส่ใจ เพราะเป็นเองหายเองได้ แต่การปวดท้อแล้วลามไปปวดหลังนั้นเกี่ยวข้องกับกรวยไต ถ้ามีอาการปวดนานเกิน 2 สัปดาห์และปัสสาวะติดขัด สีขุ่นมาก มีไข้สูงหนาวสั่น เป็นอาการของโรคกรวยไตอักเสบ 

วิธีการรักษา เมื่อมีอาการต้องรีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการปวดท้องตรงกลางและปวดหลังร่วมด้วยเกี่ยวข้องกับกรวยไต จึงไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจ่ายมาเท่านั้น 

ปวดท้องตรงกลางใต้ลิ้นปี่ เกิดจากอะไร รักษายังไง

บริเวณใต้ลิ้นปี่มีอวัยวะสำคัญหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะอาหาร ตับ และกระดูกลิ้นปี่ เมื่อมีอาการปวดร่วมกับคลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย แน่นท้องอาเจียนบ่อย และผู้ป่วยบางรายมีอาการปวดท้องที่หลังด้วย ซึ่งอาการเหล่านั้น เป็นสัญญาณเตือนโรคกระเพาะอาหารอักเสบหรือมีแผลภายใน ถ้าคลำเจอก้อนเนื้อในบริเวณที่ปวดให้เฝ้าระวังโรคตับโต วิธีการรักษาเบื้องต้น ต้องปรึกษาแพทย์และตรวจวินิจฉัยทันที 

ปวดท้องตรงกลาง กินอะไรได้บ้าง ช่วยบรรเทาอาการ

เนื่องจากอาการปวดท้องเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ซึ่งมีพฤติกรรมของผู้ป่วยเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อมีอาการปวดท้องแล้ว สิ่งที่ควรปฏิบัติ ต้องพิจารณาระดับความรุนแรงของอาการก่อน ถ้าไม่รุนแรงมากนัก สามารถซื้อยาจากเภสัชกรทานได้ โดยยาที่สามารถซื้อทานได้ มีดังนี้ 

  1. ยาแก้ปวด 
  2. ยาคลายกล้ามเนื้อ 
  3. ยาแก้จุกเสียด 
  4. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร เป็นต้น 

สำหรับอาหารที่ควรรับประทานเพื่อบรรเทาอาการ มีดังนี้ 

  1. ข้าว เป็นอาหารที่ร่างกายย่อยได้ง่าย และมีสารช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ทำให้บรรเทาอาการปวดท้องได้ดี 
  2. กล้วย เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมอยู่เยอะ ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียได้
  3. แอปเปิล เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีสารโพลีฟีนอลสูง เมื่อผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ลมภายในกระเพาะเยอะรับประทาน สารดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้นจึงลดอาการปวดได้
  4. ขิง สมุนไพรสารพัดคุณประโยชน์ ทานช่วยบรรเทาอาการปวดท้องและคลื่นไส้
  5. แกงจืดและอาหารอ่อน ๆ จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงายง่ายขึ้น ไม่ระคายเคืองท้อง จึงลดอาการปวดท้อง

ปวดท้องตรงกลางแบบไหน ต้องรีบไปหาหมอทันที 

อาการปวดเป็นความผิดปกติอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งที่อยู่บริเวณท้องตรงกลาง เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว ควรสังเกตอาการเป็นประจำทุกวัน หากมีอาการผิดปกติ 8 อาการต่อไปนี้ ต้องรีบพบแพทย์ทันที 

  1. ปวดท้องรุนแรงนานเกิน 6 ชั่วโมง ทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น 
  2. รู้สึกปวดท้องจนไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ 
  3. อาเจียนร่วมกับการปวดท้องมากกว่า 4 ครั้งติดต่อกัน 
  4. ไม่สามารถขยับร่างกายได้ เมื่อขยับจะปวดท้องรุนแรงทันที 
  5. ปวดบริเวณท้องตรงกลางลามไปท้องน้อยด้านขวามือ 
  6. นอนหลับไม่ได้ มีอาการปวดรุนแรงตลอดเวลา 
  7. เลือดไหลออกมาจากบริเวณช่องคลอดของผู้หญิง 
  8. มีไข้สูง เวียนศีรษะ หรือปวดศีรษะร่วมด้วย 

ขั้นตอน การตรวจหาโรคแทรกซ้อนของแพทย์ 

เมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล แพทย์จะมีวิธีการคัดกรองอาการออกเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ เพื่อช่วยให้การรักษาตรงกับปัญหาสุขภาพมากที่สุด ดังนี้ 

  1. การส่องกล้องขนาดเล็กตรวจความผิดปกติของกระเพาะอาหาร มักจะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องเรื้อรัง อาเจียน ไข้ คลื่นไส้ หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก ตลอดไปจนถึงจุกที่ใต้ลิ้นปี่ เป็นต้น 
  2. การส่องกล้องขนาดเล็กตรวจความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ มักจะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูก อาหารไม่ย่อย ท้องเสียร่วมกับอาการปวดท้อง และน้ำหนักลดลงไวชนิดไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น 

สรุป

อาการปวดท้องตรงกลาง เป็นสัญญาณเตือนสุขภาพร่างกายภายในมีความผิดปกติ เนื่องจากบริเวณท้องตรงกลางใกล้กับอวัยวะสำคัญหลายอย่าง เช่น หัวใจ ตับ กรวยไต เป็นต้น หากมีอาการปวดท้องตรงกลาง สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ พิจารณาอาการปวดท้องตรงกลางเกิดขึ้นเฉียบพลันหรือเรื้อรัง สังเกตอาการผิดปกติร่วม นำข้อมูลจากการเฝ้าระวังค้นหาวิธีการบรรเทาอาการเบื้องต้นที่ถูกต้อง เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำจนครบทุกข้อ แต่อาการปวดท้องตรงกลางไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ตรวจวินิจฉัยโรค เพื่อขั้นตอนการรักษาอาการที่ถูกวิธีที่สุด

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top