โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) หรือ อาการ กรดไหลย้อน คือ การที่น้ำกรด (Hydrochloric acid) น้ำดี (bile) แก๊สหรือน้ำย่อยภายในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาหลอดอาหาร ลำคอ กล่องเสียง หรือหลอดลมจนทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวในบริเวณนั้นๆ เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน
อาการกรดไหลย้อน (GERD symptoms) อาการสำคัญที่พบบ่อย
- แสบร้อน ไม่สบายลำคอ กลางปก ยอดอก ลิ้นปี่
- เจ็บแน่นกลางหน้าอก หายใจไม่โล่ง
- เรอลมบ่อยๆ
- เจ็บแสบลำคอ คอแห้ง
- อาหารย้อนขึ้นมาลำคอหรือในปาก
- รู้สึกเปรี้ยวหรือขม ที่เกิดจากการสำรอกน้ำย่อย
- เสียงแหบ เรื้อรัง เสียงเปลี่ยน
- รู้สึกมีเสมหะในลำคอมาก
ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการไอเรื้อรังหรือมีความรู้สึกเหมือนมีก้อนติดค้างอยู่ที่ลำคอ เรียกอาการที่เกิดกับบริเวณกล่องเสียงและลำคอนี้ว่า Laryngopharyngeal Reflux (LPR) โดยอาการดังกล่าวมักเกิดหลังจากการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารรสเผ็ด เปรี้ยว รสมันจัด ช็อกโกแลต น้ำอัดลม และมักมีอาการในขณะเอนตัวลงนอนราบกับพื้น ขณะนอนหลับ หรือ ตื่นนอนใหม่ๆ
สาเหตุ กรดไหลย้อน รักษา ด้วยวิธีใดได้บ้าง?
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นถึงสาเหตุหรือปัจจัยการเกิดกรดไหลย้อน ผู้ป่วยกรดไหลย้อนร้อยละ 70% จัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยประเภทไม่รุนแรง หลักการรักษาโรคกรดไหลย้อนให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีนั้น ต้องประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกันคือ การรับประทานยาเพื่อรักษาอาการเบื้องต้นและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อรักษาระยะยาว
โดยในที่นี้จะอ้างอิงการรักษาจาก American College of Gastroenterology ปี พ.ศ. 2551-2556 และ Asia-Pacific Consensus ปี 2551 โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
- รักษาด้วยยา (medications) ยาลดกรดไหลย้อนนั้นมีหลายชนิด ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
1.1 ยาควบคุมความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มย่อยคือ
- กลุ่มแรก Proton-pump inhibitors (PPIs) เช่น ยา esomeprazole, lansoprazole, omeprazole, pantoprazole และ rabeprazole
- กลุ่มสอง Histamine-2 receptor antagonists (H2RA) เช่น ยา famotidine, nizatidine, ranitidine และ cimetidine
1.2 ยาช่วยปรับการทำงานหรือกระตุ้นการบีบตัวของหลอดอาหาร (Prokinetic agents)
1.3 ยาช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหูรูดหลอดอาหาร เช่น ยา GABA-B agonist
1.4 ยาบรรเทาอาการเฉพาะช่วงเมื่อมีอาการ เช่น alginate, antacid เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: ยาลดกรด แก้กรดไหลย้อนในกระเพาะอาหาร (GERD) แต่ละประเภท
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (lifestyle modifications) เป็นการแก้ไขปัจจัยเสี่ยงและการการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นจะช่วยให้อาการดีขึ้นแล้วยังลดการเกิดกรดไหลย้อนซ้ำได้อีกด้วย ซึ่งมีหลายวิธีการดังนี้
- รับประทานอาหารแค่พออิ่ม หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป
- ลดอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรืออาหารที่มีไขมันสูง คาร์โบไฮเดรตสูง
- งดหรือเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดหรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการก้มตัวเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดหน้าท้อง ควรใส่เสื้อผ้าหลวมๆ
- หลังรับประทานอาหารไม่ควรนอนเอนตัวหรือเอนราบหลังมืออาการนั้นๆ ควรรอประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อรอให้อาหารเคลื่อนตัวเข้าสู่ลำไส้เล็กก่อน
- ก่อนนอนควรให้ท้องว่างประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ไม่ควรรับประทานอาหารจุบจิบ
- หลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณยาที่ทำให้กรดไหลย้อนมากขึ้น ได้แก่ ยากลุ่ม non-steroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs), anticholinergics, alpha-adrenergic agonist,beta-agonist และ caffeine เป็นต้น
สรุปได้ว่า โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่พบบ่อย ทำให้เกิดอาการต่างๆที่กระทบต่อการใช้ชีวิตและยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ การทำความเข้าใจกับสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยงของโรคนั้นช่วยให้เลือกวิธีในการรักษาได้อย่างถูกต้อง การรักษาโดยการใช้ยาร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะส่งผลให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด