โรควิตกกังวล สาเหตุ มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร? แนวทางวิธีการรักษา

โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) คือ โรคทางจิตเวชที่สามารถพบได้บ่อย โดยผู้ป่วยที่เป็นโรควิตกกังวลจะมีความกังวลสูงในหลายสถานการณ์ อีกทั้งอาจควบคุมตัวเองได้ยาก และอาจไม่สามารถจัดการกับความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นนั้นกลายเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นนาน และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเรียน, การทำงาน หรือการเข้าสังคม และขั้นรุนแรงที่อาจส่งผลให้เป็นโรคซึมเศร้าหรือการคิดสั้นฆ่าตัวตายได้

โรควิตกกังวล แบบทดสอบ สังเกตได้จากอาการเหล่านี้

โรควิตกกังวลอาจไม่สามารถควบคุมอาการต่างๆ เหล่านี้ได้ หรืออาจควบคุมอาการได้ยาก และเป็นอาการระยะยาวที่มีอาการ 6 เดือนขึ้นไป โดยทั่วไปแล้วมักสังเกตมีอาการได้หลายลักษณะดังนี้

  1. มีความคิดมากเกินกว่าเหตุ หรือรู้สึกไม่สบายใจเกินความจำเป็น
  2. มีความรู้สึกกังวลว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับตนเองหรือคนใกล้ตัว
  3. มีความรู้สึกกระสับกระส่าย, ตื่นตระหนก และว้าวุ่น
  4. รู้สึกประหม่า เขินอายมาก
  5. รู้สึกกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย
  6. หงุดหงิดง่าย
  7. ใจลอยบ่อย และขาดสมาธิในการทำสิ่งต่างๆ
  8. มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ หรือหลับยาก
  9. มีปัญหาเกี่ยวกับการตัดสินใจ ตัดสินใจในเรื่องง่ายไม่ได้ ตัดสินใจยาก ไม่กล้าตัดสินใจ
  10. มีความเครียดจนเกิดอาการกล้ามเนื้อตึง หรือมีความรู้สึกปวดกล้ามเนื้อ
  11. รู้สึกคลื่นไส้, ลำไส้แปรปรวน, ท้องเสีย
  12. รู้สึกอ่อนเพลียง่าย เหนื่อยง่าย
  13. มีเหงื่อออกมากผิดปกติ
  14. มือเท้าเย็นและชา
  15. ความดันขึ้น
  16. รู้สึกเจ็บหน้าอก
  17. ปากแห้ง

นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว โรควิตกกังวลยังมีลักษณะอาการเฉพาะที่แบ่งออกตามประเภทของโรค 5 ประเภทอีกด้วยเช่นเดียวกัน

รูปภาพประกอบจาก Freepik

โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder: GAD)

โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder: GAD) ผู้ป่วยมักมีความกังวลเกินเหตุ และมักมีความรู้สึกระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าจะเกิดอันตรายต่างๆ โดยที่ไม่สามารถหยุดคิดเรื่องเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน, เรื่องของการเรียน, เรื่องสุขภาพ, การเงิน, ความปลอดภัย หรือตลอดจนเรื่องเล็กน้อย ที่แม้ว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดความคิดเหล่านี้ได้ จนอาจส่งผลกระทบรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

โดยความแตกต่างระหว่าง โรควิตกกังวลทั่วไป (GDA) กับโรควิตกกังวลประเภทอื่น ผู้ป่วยที่เป็นโรควิตกกังวลทั่วไปจะมีความรู้สึกกังวลไปหมดทุกเรื่อง ในขณะที่ผู้ป่วยโรควิตกกังวลประเภทอื่นจะมีความกังวลเพียงแค่เฉพาะบางเรื่อง และในบ่อยครั้งผู้ป่วยที่เป็นโรควิตกกังวลทั่วไปมักมีปัญหาด้านอารมณ์อื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคกลัวสังคม หรือ โรคซึมเศร้า

โรควิตกกังวล แพนิค (Panic Disorder: PD)

โรคแพนิค (Panic Disorder: PD) หรือ โรคตื่นตระหนก เกิดขึ้นจากระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System) ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้สมองทำการหลั่งสารตื่นตระหนกออกมาทำให้เกิดความหวาดกลัวหรือมีความวิตกกังวลอย่างไม่ทราบสาเหตุเป็นระยะๆ โดยอาจมีอาการทางกายร่วมด้วย อาทิเช่น ใจสั่น, ใจเต้นเร็ว, รู้สึกเจ็บหน้าอก, เวียนหัว และคลื่นไส้ เป็นต้น โดยอาการโรคแพนิคที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ มักทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้คิดว่าตนเองเป็นโรคหัวใจ หรืออาจเป็นปัจจัยที่อาจนำไปสู่ภาวะอื่นได้ เช่น การเกิดภาวะซึมเศร้า และการติดสารเสพติด เป็นต้น

โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder: OCD)

โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder: OCD) ผู้ป่วยจะมีความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นจากการคิดซ้ำไปมาในบางเรื่อง และอาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมตอบสนองต่อความคิดเหล่านั้นซ้ำๆ กล่าวคือ การทำสิ่งเดิมซ้ำๆ เพื่อความมั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นจะไม่มีอะไรผิดพลาด อาทิเช่น การเดินกลับไปดูที่ประตูบ้านซ้ำๆ เนื่องจากกังวลว่าตนเองนั้นทำการล็อคประตูแล้วหรือไม่ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการที่มักพบได้บ่อยในช่วงวัยทำงาน โดยอาจส่งผลให้เสียเวลาไปกับพฤติกรรมที่ทำอะไรซ้ำๆ โดยไม่จำเป็น และอาการเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

รูปภาพประกอบจาก Freepik

โรควิตกกังวล โรคกลัวแบบเฉพาะเจาะจง (Phobia)

โรคกลัวแบบเฉพาะเจาะจง (Phobia) หรือ “โฟเบีย” คือ โรคที่มีอาการกลัวอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งของบางอย่าง, สถานการณ์บางอย่าง หรือกิจกรรมบางอย่าง โดยอาจเกิดขึ้นได้จากการกลัวที่มากกว่าหนึ่งอย่างได้เช่นเดียวกัน โดยโรคกลัวแบบเฉพาะเจาะจงนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นอีก 3 ประเภทหลัก

  • โรคกลัวเฉพาะอย่าง (Specific Phobia) ผู้ป่วยโรคนี้มักมีความกลัวที่สามารถพบได้ทั่วไป และมักพบได้บ่อย เช่น กลัวงู, กลัวความสูง, กลัวเลือด หรือกลัวความมืด เป็นต้น
  • โรคกลัวที่ชุมชน หรือ โรคอะโกราโฟเบีย (Agoraphobia) ผู้ป่วยโรคนี้มีอาการกลัวการตกอยู่ในสถานที่หรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้ตนเองลำบาก ไม่สามารถหาความช่วยเหลือได้ หรือเป็นที่ที่ทำให้รู้สึกอับอายได้ อาทิเช่น กลัวที่แคบ, กลัวห้องที่ไม่มีหน้าต่าง, กลัวลิฟต์, กลัวการขึ้นเครื่องบิน, กลัวการนั่งด้านในรถตู้ หรือ กลัวที่ที่มีคนแออัด เป็นต้น
  • โรคกลัวกิจกรรมทางสังคม (Social Phobia) ผู้ป่วยโรคนี้มักมีความรู้สึกกลัวหรือกังวลเมื่อคิดว่าตนเองกำลังตกเป็นเป้าสายตา หรือกำลังอยู่ในความสนใจของผู้อื่น อาทิเช่น การพูดรายงานหน้าชั้น, การพูดในที่ประชุม, การทำกิจกรรมในที่สาธารณะ และการพูดผ่านไมโครโฟน เป็นต้น

โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (Post-Traumatic Stress Disorder: PTSD)

โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (Post-Traumatic Stress Disorder: PTSD) หรือ โรคเครียดหลังเหตุสะเทือนใจ ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหลังจากผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายในชีวิต อาทิเช่น การฆาตกรรม, การเกิดสงคราม, การเผชิญหน้ากับภาวะเฉียดตาย และการสูญเสียครอบครัว เป็นต้น โดยทำให้เกิดอาการความกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก หรือมักที่จะคิดถึงเหตุการณ์เดิมๆ ซ้ำๆ ส่งผลให้เกิดความเครียด ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดความบกพร่องเสียหายต่อหน้าที่การงาน และกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งผู้ป่วยโรคนี้ยังอาจหาทางออกโดยการใช้สารเสพติด และอาการอาจรุนแรงถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายได้ด้วยเช่นเดียวกัน

แนวทางวิธีการรักษา โรควิตกกังวล แก้ยังไง ?

ในการรักษาโรควิตกกังวลสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาล เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโรควิตกกังวลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์โดยตรง โดยวิธีการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของโรคที่เป็น ประกอบกับสาเหตุของการเกิดโรควิตกกังวลของแต่ละบุคคล

การรักษาโรควิตกกังวล จิตบำบัด (Psychotherapy)

การบำบัดทางจิตไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาร่วมหรือการไม่ใช้ยาร่วมด้วย จัดเป็นพื้นฐานในการรักษาโรควิตกกังวล โดยรูปการบำบัดอาจแตกต่างกันไปตามอาการของผู้เข้ารับการรักษา โดยมีเป้าหมายให้ผู้ป่วยเข้าใจความคิดและอารมณ์ของตนเอง สามารถควบคุม รับมือ และจัดการความเครียดหรือความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม

  • จิตบำบัดเชิงจิตพลวัต (Psychodynamic psychotherapy)
  • การบำบัดทางจิตรูปแบบประคับประคองและระบายถึงปัญหา (Supportive-expressive therapy)
  • การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (cognitive-behavioral therapy)

การรักษาโรควิตกกังวล ด้วยการใช้ยา

การรักษาโรควิตกกังวลด้วยการใช้ยา ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

  • ยาระงับความวิตกกังวล ยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepine: BZD) ซึ่งมักใช้ในโรควิตกกังวลทั่วไป หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับร่วมด้วย อาทิเช่น ยาอัลปราโซแลม (Alprazolam) และ ยาโคลนาซีแพม (Clonazepam)
  • ยารักษาอาการซึมเศร้า ที่ใช้รักษาอาการวิตกกังวลได้เช่นเดียวกับการรักษาซึมเศร้า เช่น ยากลุ่ม SSRIs
  • ยาควบคุมอาการทางกาย ยาเบต้าบล็อกเกอร์ (Beta-blocker) ที่ใช้เมื่อเกิดอาการทางการร่างกาย จากความวิตกกังวล มีอาการ ใจสั่น, มือสั่น เช่น ยาโพรพราโนลอล (Propranolol)

แนวทางการรับมือกับความวิตกกังวล ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง

เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกถึงความวิตกกังวล สามารถรับมือกับอาการได้ด้วยการทำตามวิธีการเหล่านี้

  • ถอยห่างออกจากปัญหาเพื่อให้สมองรู้สึกโล่งหรือหยุดพักชั่วคราว ด้วยการเล่นโยคะ ฟังดนตรี ทำสมาธิ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายทุกวันจะช่วยทำให้รู้สึกดีและรักษาสุขภาพไปได้พร้อมๆ กัน
  • จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ที่ทำให้ความวิตกกังวลแย่ลงและกระตุ้นอาการตื่นตระหนก
  • หายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อสงบจิตใจ
  • ปรึกษาแพทย์หรือนักบำบัดเพื่อรับการช่วยเหลือเฉพาะทาง

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วน จากแหล่งที่มา

Scroll to Top