เซรั่มลดรอยสิว กระชับรูขุมขน ควรดูสารประกอบอะไร?

การเลือกใช้ เซรั่มลดรอยสิว กระชับรูขุมขน จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรักษารอยแดง รอยดำ รอยนูน หรือรอยบุ๋ม ที่ทิ้งร่องรอยไว้หลังจากการเกิดสิวได้ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มลดรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องเป็นเซรั่มที่มีสารประกอบที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง และเพื่อให้ปัญหารอยสิวหมดไปพร้อมเรียกความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง ผู้ใช้ควรเลือกผลิตภัณฑ์เซรั่มลดรอยสิวที่มีสารประกอบสำคัญเหล่านี้

เซรั่มลดรอยสิว ที่มีกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid)

กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) หรือ วิตามินซีสังเคราะห์ คือ กรดที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน มีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบของเนื้อเยื่อที่อาจเกิดความเสียหาย และช่วยในการสมานแผลที่เกิดขึ้นจากสิว รวมไปถึงยังมีส่วนช่วยในการลดรอยแผลและสร้างเมลานินของเซลล์ผิว กรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซีสังเคราะห์จึงสามารถช่วยให้รอยสิวแลดูจางลงและหายไปได้

รูปภาพประกอบจาก Freepik

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงในการใช้ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid)

เซรั่มลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) หรือ วิตามินซีสังเคราะห์ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว และยังมีความปลอดภัยในการใช้ร่วมกับ ครีมลดริ้วรอย หรือสารที่มีการออกฤทธิ์ต้านริ้วรอย อย่าง เทรติโนอิน (Tretinoin) และกรดไกลโคลิก (Glycolic acid) แต่การเลือกใช้กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) หรือ วิตามินซีสังเคราะห์ อาจมีอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น อย่างเช่น อาการแสบ, ผิวแดง และอาจเกิดการระคายเคืองได้ การเลือกใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว สามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ แต่หากมีอาการแสบอย่างรุนแรงควรรีบล้างผิวหน้าด้วยน้ำสะอาด และหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ในทันที

เซรั่มลดรอยสิว กระชับรูขุมขน ที่มีอาร์บูติน (Arbutin)

อาร์บูติน (Arbutin) เป็นสารประกอบที่มีการสกัดมาจากธรรมชาติ และนิยมใช้อย่างมากในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยการใช้เซรั่มลดรอยสิวที่มีส่วนประกอบของอาร์บูตินจะมีส่วนช่วยในการยับยั้งการสร้าง เม็ดสีเมลานิน หรือเม็ดสีของผิวหนัง มีส่วนช่วยในการช่วยปรับระดับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอกัน และอาจช่วยลดเลือนรอยดำคล้ำที่เกิดขึ้น จากการเกิดสิวได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาผิวที่มีความหมองคล้ำโดยที่ไม่ทำให้ผิวบางลงอีกด้วย

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงในการใช้ อาร์บูติน (Arbutin)

การใช้เซรั่มที่มีส่วนประกอบของอาร์บูตินเพื่อลดเลือนรอยสิว มีข้อควรระวังในการเลือกใช้ดังต่อไปนี้

  • การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มลดรอยสิวสำหรับผิวหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอาร์บูตินเป็นส่วนประกอบไม่เกิน 2%
  • ไม่ควรใช้อาร์บูตินร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีไม่ละลายน้ำ อย่าง AHA เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับโรคผิวหนัง อย่างเช่น โรคสะเก็ดเงิน ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของการอาร์บูติน

หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของอาร์บูตินอย่างผิดวิธี อาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง และส่งผลให้ผิวหนังไวต่อสิ่งเร้าทุกชนิด ในการใช้เซรั่มลดรอยสิวที่มีส่วนประกอบของอาร์บูตินหากมีอาการแสบอย่างรุนแรงควรรีบล้างผิวหน้าด้วยน้ำสะอาด ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ และรีบเข้าพบแพทย์และขอคำปรึกษาในทันทีเช่นเดียวกัน

เซรั่มลดรอยสิว กระชับรูขุมขน ที่มีอาร์บูติน (Arbutin)
รูปภาพประกอบจาก Freepik

เซรั่มลดรอยสิว ผิวแพ้ง่าย 7-11 ที่มี ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)

ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) หรือ นิโคตินาไมด์ (Nicotinamide) วิตามินบี 3 ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการช่วยลดเลือนรอยสิว และจุดด่างดำ มีส่วนช่วยในการผลิตเซลล์ผิวใหม่ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการปรับให้ผิวแลดูสว่างใสและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น มีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขน และมีส่วนช่วยในการควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ที่อาจก่อให้เกิดสิวใหม่ได้

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงในการใช้ ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)

การใช้เซรั่มที่มีส่วนประกอบของไนอะซินาไมด์ มีข้อควรระวังในการเลือกใช้ดังต่อไปนี้

  • การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไนอะซินาไมด์เพื่อบำรุงผิว ควรมีประมาณที่พอดี
  • ไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เนื่องจากอาจทำให้วิตามินซีเปลี่ยนสีและประสิทธิภาพของวิตามินซีอาจลดลง อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

ในบริเวณที่มีความบอบบาง อย่างเช่น บริเวณจมูกหรือรอบดวงตา อาจมีอาการระคายเคือง แสบ หรือแดง แต่หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงควรรีบล้างผิวหน้าด้วยน้ำสะอาด ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไนอะซินาไมด์ และเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ หรือขอรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทันที

วิธีการรักษารอยสิวรูปแบบอื่น ร่วมกับการใช้เซรั่มลดรอยสิว

รูปแบบของการรักษารอยสิวนั้นขึ้นอยู่กับชนิด และความรุนแรงของรอยสิวที่เกิดขึ้น ดังนั้นนอกเหนือไปจากการรักษารอยสิวด้วย เซรั่มลดรอยสิว ยังมีรูปแบบวิธีการรักษาอื่นๆ ที่สามารถทำการรักษาร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มลดรอยสิว เพื่อแก้ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นหลังการเกิด สิว ได้เช่นเดียวกัน

  • การรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์ เป็นการขจัดเซลล์เก่าของชั้นหนังกำพร้า และทำการกระตุ้นชั้นหนังแท้ให้มีการสร้างคอลลาเจน เพื่อซ่อมแซมผิวหนังส่วนที่มีการเสียหาย โดยการใช้เลเซอร์เพื่อลดรอยสิวอาจมีอาการข้างเคียง อย่างเช่น การทำให้เกิดรอยแดงที่อาจมีอาการคันร่วมด้วย สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อทำให้อาการเหล่านี้ทุเลาลงได้
  • การรักษารอยสิวด้วยการฉีดสเตียรอยด์ เป็นวิธีการรักษารอยสิวที่มีลักษณะนูน การฉีดสเตียรอยด์โดยแพทย์ทำให้การนูนของรอยสิวลดลงได้
  • การรักษารอยสิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หรือการฉีดคอลลาเจน ไขมัน และวิตามินเข้าใต้ผิวหนัง เป็นวิธีที่จะทำให้ผิวหนังเต่งตึงมากยิ่งขึ้น เพื่อกลบรอยสิวและริ้วรอยต่างๆ ให้สามารถมองเห็นได้ยากมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

โดยวิธีการรักษาเหล่านี้ สามารถทำการรักษาร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มลดรอยสิวได้ และหากต้องการใช้วิธีการรักษาเหล่านี้เพื่อลดเลือนรอยสิว สามารถที่จะเข้ารับคำแนะนำ คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการรักษาที่เหมาะสม และสามารถเข้ารับการรักษารอยสิวจากแพทย์ผิวหนังได้โดยเฉพาะ

สรุป

รอยสิว หรือร่องรอยที่ทิ้งไว้หลังการเกิดสิว ที่อาจเกิดจากการแคะ บีบ แกะ หรือเป็นรอยสิวที่อาจเกิดจากการรักษาสิวอย่างผิดวิธี สามารถที่จะทำการรักษาเพื่อให้รอยสิวเหล่านี้แลดูจางลงหรือหายไปได้ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มลดรอยสิวที่สามารถเลือกซื้อได้ง่าย แต่ในการเลือกใช้เซรั่มลดรอยสิวหากต้องการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเห็นผลมากที่สุด

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มที่มีส่วนประกอบของสารสกัดที่มีฤทธิ์ในการลดเลือนรอยสิวและช่วยในการรักษารอยสิวได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้ระยะเวลาในการเห็นผล เนื่องจากรอยที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รอยดำ, รอยแดง, รอยนูน, รอยบุ๋ม หรือรอยสิวในลักษณะใดก็ตาม จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการดูแลและรักษา ขึ้นอยู่กับลักษณะ ชนิด และความรุนแรงของรอย และหากต้องการให้รอยสิวเหล่านี้จางหายไวมากยิ่งขึ้น สามารถใช้การรักษาอื่นๆ ร่วมกับการใช้เซรั่มลดรอยสิวได้ สามารถเข้ารับคำแนะนำและร่วมกันหาแนวทางเพื่อรักษาที่เหมาะสมกับแพทย์ผิวหนัง หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ในทันที

และต่อไปหากไม่อยากให้มีรอยสิวใหม่เกิดขึ้น หรือเกิดรอยสิวใหม่ขึ้นอีก ควรหลีกเลี่ยงการแคะ การบีบ การแกะ ในบริเวณที่มีสิวเด็ดขาด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ เจลแต้มสิว เพื่อลดความรุนแรงของสิวหรือบรรเทาอาการอักเสบและบวมแทน เพียงเท่านี้โอกาสในการเกิดร่องรอยหลังจากการเกิดสิวนั้นก็แทบจะหมดไปแล้วอย่างสิ้นเชิง

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วน จากแหล่งที่มา

Scroll to Top